นักลงทุนสัมพันธ์
การกำกับดูแลกิจการ

News & Events

ข่าวสารและกิจกรรม

ข่าวสาร

ค้นหา :
ปี :
Preview
ไทยวาโก้ ประกาศจ่ายเงินปันผลติดต่อกันเป็นปีที่ 46

ตามที่บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 50 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ที่ประชุมมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.80 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 216 ล้านบาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผล คือ วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2562 นับเป็นการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ติดต่อกันเป็นปีที่ 46 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด

สำหรับผู้ถือหุ้นที่ต้องการชมภาพการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดให้มีการบันทึกภาพการประชุมในรูปของสื่อวิดีทัศน์และพร้อมให้บริการเผยแพร่แก่ผู้ถือหุ้นที่สนใจ

Preview
“วาโก้” จับมือ “รพ.ขอนแก่น” เปิดศูนย์มะเร็งเต้านมครบวงจรแห่งแรกในอีสาน

โครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม สมทบทุนโรงพยาบาลขอนแก่น 15 ล้านบาท เปิดตัว “ศูนย์รักษ์เต้านม” อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็น ศูนย์เฉพาะทางด้านการดูแลวินิจฉัยและบาบัดโรคมะเร็งเต้านมแบบครบวงจรแห่งแรกในภาคอีสาน ช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรีขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านม

พิธีเปิดศูนย์รักษ์เต้านม ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารคุณากรปิยชาติ ชั้น 1 โรงพยาบาลขอนแก่น ได้รับเกียรติจาก หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคาน้อย จ.อุดรธานี ทาพิธีเจิมศูนย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลโดยมีประชาชนและศิษยานุศิษย์ร่วมนมัสการเป็นจานวนมาก และมีตัวแทนของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อานวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ศ.นพ.ศุภกร โรจนนินทร์ อดีตนายกสมาคมวิทยาลัยศัลยแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการระดมทุนและผสานความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ พร้อมด้วย ณัฐชรินธร พงศ์สุภาจินตภา กรรมการบริหาร บริษัท ไทยวาโก้ จากัด (มหาชน) มาร่วมแสดงความยินดี

นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อานวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า “ปัจจุบันโรคมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงไทย และมีแนวโน้มพบผู้ป่วยใหม่มากขึ้นทุกปี การเปิดศูนย์รักษ์เต้านมครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีทั้งสาหรับชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน ซึ่งจะได้เข้าถึงบริการตรวจรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมได้อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม และรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังตั้งใจให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางกระจายความรู้ในการดูแลสุขภาพสู่ชุมชนโดยรอบอีกด้วย เรียกว่าเป็นการป้องกันโรคตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ คือให้ความรู้ตั้งแต่ก่อนเป็นมะเร็งและดูแลรักษาจนถึงระยะสุดท้าย ที่ผ่านมา ทางรพ.ได้ส่งทีมลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ วิธีสังเกตสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านม วิธีตรวจเต้านมด้วยการคลา การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม ไปพร้อมๆ กับรณรงค์ให้สตรีชาวอีสานกลุ่มเสี่ยงทุกช่วงอายุเห็นความสาคัญของการตรวจสุขภาพเต้านมเป็นประจำ”

ศ.นพ.ศุภกร โรจนนินทร์ อดีตนายกสมาคมวิทยาลัยศัลยแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในการระดมทุน ระบุว่า ศูนย์รักษ์เต้านมแห่งนี้เกิดขึ้นได้จากความทุ่มเทและความร่วมมือจากหลายฝ่ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องการให้ความเจริญด้านการแพทย์กระจายไปสู่ภูมิภาคต่างๆ และสร้างความสุขแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเอกชนนาโดยโครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม โครงการเพื่อสังคมภายใต้การดาเนินงานของวาโก้ ที่ได้ร่วมสมทบทุน 15 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเครื่องแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ และในโอกาสวันเปิดศูนย์รักษ์เต้านม วาโก้ยังมอบชุดชั้นใน Balancing Bra และหมวกสาหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรวมมูลค่า 255,000 บาท ทาให้บริการด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ครบสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

“ขอนแก่นถือเป็นเป้าหมายแรกที่เราเลือกและทาได้สาเร็จ ทาให้โรงพยาบาลขอนแก่นมี ศูนย์มะเร็ง เต้านมที่ให้บริการด้านตรวจรักษาที่ครบวงจรมากที่สุดในภูมิภาคอีสาน ในอนาคตเรายังมีแผนที่จะขยาย โมเดลการพัฒนาด้านสาธารณสุขเช่นนี้ต่อไปยังภาคเหนือด้วย โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หากทาได้สาเร็จ ความหวังที่จะช่วยให้ ผู้หญิงไทยไม่ต้องทุกข์ทรมานกับโรคมะเร็งเต้านมก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป” นพ.ศุภกร กล่าวทิ้งท้าย

Preview
“บราเก่า เราขอ” วาโก้ เดินหน้าสานต่อความสำเร็จแคมเปญรักษ์โลก “วาโก้ บราเดย์” บรามีค่า สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด Zero Waste (ขยะ เท่ากับ ศูนย์) ลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้าขั้นวิกฤต

กรุงเทพฯ 21 กุมภาพันธ์ 2562  บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน)ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์วาโก้ ชุดชั้นในสตรีที่เข้าใจผู้หญิงไทยอย่างแท้จริง ร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดโครงการ “วาโก้ บราเดย์” บรามีค่า สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม โครงการที่ทางวาโก้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 8 โดยในปีนี้จะสื่อสารในรูปแบบ “บราเก่า เราขอ” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเล็งเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นโครงการที่รับบริจาคบราเสื่อมสภาพทุกแบรนด์ และนำบราเก่าเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายโดยการ เผาในระบบปิดร่วมกับการผลิตปูนซีเมนต์ ลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งเพื่อไม่ให้เกิดขยะชุมชนซึ่งจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงวาโก้ยังได้มอบวัสดุใหม่คุณภาพดีที่ใช้ประกอบบรา นำไปสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ เป็นการสร้างอาชีพให้กับสตรีที่อยู่ในบ้านพักฉุกเฉินถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของผลิตภัณฑ์วาโก้ ในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

“วาโก้ บราเดย์” ดำเนินการภายใต้แนวคิด Zero Waste หรือ ขยะ = ศูนย์ คือการกำจัดขยะให้มีปริมาณคงเหลือน้อยที่สุด จนไม่มีขยะเหลือเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนระดับชาติภายใต้สภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่รวมทั้งประเทศไทยเองด้วย โดยมีหลักการสำคัญ คือ การใช้วัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ให้มากที่สุด ลดปริมาณของเสียที่จะทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตสินค้าใหม่ที่ผสมผสานการนำวัสดุกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ได้ รณรงค์การใช้สินค้าที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ พัฒนาการนำขยะกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ ช่วยยกระดับเป้าหมายทางเศรษฐกิจของชุมชนและสร้างงานใหม่ๆ ให้กับชุมชน เพราะปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นมากมายซึ่งนับวันปัญหาดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ปัญหามลภาวะก็เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งที่ทุกคนควรจะตระหนักถึง และหาแนวทางในการแก้ไขอย่างจริงจัง ลดปริมาณขยะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและนำมากลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยโครงการนี้ใช้หลัก 3R คือ

1. Reuse การบริจาควัสดุใหม่ที่ใช้ประกอบบราให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ได้นำวัสดุไปทำเป็นชิ้นงานฝีมือ สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับสตรีบ้านพักฉุกเฉิน

2. Reduce นำบราเสื่อมสภาพที่ไม่ใช้แล้ว จากการรับบริจาคนำเข้าสู่กระบวนการย่อยสลาย แล้วนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหิน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ ในกระบวนการเผาระบบปิดที่อุณหภูมิ 1800 องศาเซลเซียส ด้วยความร้อนที่สูงมาก ขยะจะถูกเผาไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า จะลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก

3. Recycle การนำเศษโครงดันทรง ห่วงปรับและตะขอ ที่เป็นโลหะหลอมรวมเพื่อกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เป็นการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด

บุญดี อำนวยสกุล ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากวิสัยทัศน์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทวาโก้ฯ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญและดูแลในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มุ่งเน้นการรักษาระบบมาตรฐานการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ตั้งแต่การใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า การจัดซื้อวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การส่งมอบสินค้า การเอาใจใส่ต่อผู้บริโภค จนถึงกระบวนการจัดการกับผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพ จึงเกิดโครงการ วาโก้ บราเดย์ขึ้นมา เพื่อรับบริจาค บราเสื่อมสภาพ และนำบราเก่าเหล่านั้นไปเป็นเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดขยะชุมชนซึ่งจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะบรา 1 ตัว ใช้เวลาย่อยสลายเองตามธรรมชาติเฉลี่ยนานกว่า 100 ปี เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่เป็นโพลีเมอร์ หากทิ้งให้เป็นขยะตกค้างด้วยการฝังกลบจะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่หากนำไปเป็นเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนกลับช่วยลดการใช้แก๊ส, น้ำมัน, ถ่านหินได้ รวมทั้งลดปัญหาสภาวะโลกร้อน อีกทั้งโครงการวาโก้ บราเดย์ ยังได้ร่วมกับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือสตรีและเด็กกลุ่มที่ประสบปัญหาวิกฤตชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจ ให้สตรีบ้านพักฉุกเฉิน มีกำลังใจสร้างอาชีพมีรายได้ และสามารถกลับคืนสู่สังคมอย่างเปี่ยมคุณค่ามีความสุข นับว่าโครงการนี้ก่อเกิด Social Enterprise (สร้างอาชีพ สร้างรายได้) โดยวาโก้มอบวัสดุใหม่คุณภาพดีที่ใช้ประกอบบรา อาทิ ผ้า, ลูกไม้, ฟองน้ำ, สายบ่า และยาง เป็นต้น เพื่อใช้ในการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือจาก บมจ.ไทยวาโก้ ที่มามอบองค์ความรู้ เพื่อจุดประกายไอเดียใหม่ให้ชิ้นงานมีมูลค่าและสามารถต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์งานฝีมือของสตรีในบ้านพักฉุกเฉิน เพื่อร่วมเป็นผู้มอบโอกาสที่ดีในสร้างกำลังใจและสร้างคุณค่าให้กับสตรีเหล่านี้”

อินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สืบเนื่องมาจากวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2456 เป็นวันกำเนิดบราตัวแรกของโลก ซึ่งถือเป็น “วันบราเดย์” และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วาโก้ ในฐานะผู้นำชุดชั้นในของไทย จึงจัดโครงการ ""วาโก้ บราเดย์” บรามีค่า สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ต่อเนื่องเป็นที่ 8 โดยจะสื่อสารในรูปแบบ “บราเก่า เราขอ” ให้เพิ่มมากขึ้น เพราะจากสถิติประชากรหญิงในปี 2560 ประเทศไทยมีผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 10-69 ปี จำนวน 28,182,451 คน* จากการสำรวจพบว่าใน 1 ปี ผู้หญิง 1 คนจะซื้อบรา 5-12 ตัว และทิ้งบราเก่า 2 ตัว บรา 1 ตัว มีน้ำหนักเฉลี่ย 100 กรัม เท่ากับว่าใน 1 ปี จะมีขยะเพิ่มขึ้นถึง 5,636 ตัน จึงอยากเชิญชวนให้ผู้หญิงไทยแสดงพลังรักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบราเสื่อมสภาพที่ไม่ใช้แล้วทุกแบรนด์มาร่วมบริจาคกับวาโก้ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายอย่างมีคุณค่า โดยเผาในระบบปิดไร้เถ้าและเขม่าควัน เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนการใช้ถ่านหิน ที่ใช้เป็นพลังงานในการผลิตปูนซีเมนต์ ลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก ภายใต้แนวคิด Zero Waste ขยะ = ศูนย์ หรือขยะเท่ากับศูนย์นั่นเอง นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยกระตุ้นและรณรงค์ให้ผู้หญิงทั่วประเทศหันมาเช็คสุขภาพบรา เพื่อการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี”

โครงการ วาโก้ บราเดย์ ได้รับบริจาคจากประชาชนตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบันมากกว่า 300,000 ตัว เทียบเท่ากับขยะชุมชนจำนวน 30 ตัน เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมเท่ากับจำนวนต้นไม้ 1,800 ต้น หรือการใช้พลังงานจากถ่านหินถึง 36 ตัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 17.88 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า วาโก้จึงขอเชิญชวนผู้หญิงทุกคนมาร่วมมอบโอกาสที่ดีและสร้างคุณค่าให้กับชุมชนและประเทศ ด้วยการร่วมบริจาคบราเก่าที่ไม่ใช้แล้วกับโครงการ“วาโก้ บราเดย์” บรามีค่า สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม ได้แล้ววันนี้ ที่วาโก้ช้อปและเคาน์เตอร์วาโก้ ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-296-9979"

 

Preview
วาโก้ ส่งต่อพลังใจและความห่วงใยให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชวนคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาร่วมกิจกรรม “หมวกสวย ใจสวย”

บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) นำโดยคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาร่วมส่งต่อพลังใจและความห่วงใย ในกิจกรรม “หมวกสวย ใจสวย” ด้วยการประดิษฐ์ตกแต่งหมวกอย่างสวยงาม เพื่อนำไปมอบแด่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค กรมการแพทย์ โดยกิจกรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ห้องเอ็กซิบิชั่น ชั้น 3 บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

นางสาวการุณี สุหร่าย กรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของ ‘วาโก้’ ที่เชื่อว่า ผู้หญิงสวยที่สุดจากข้างใน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับทุกความต้องการของผู้หญิงในทุกช่วงวัย รวมทั้งใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และโรคภัยที่เกี่ยวข้องกับสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มะเร็งเต้านม” ที่ปัจจุบันพบว่า สถิติผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ในไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 15,000 รายต่อปี ซึ่งการรักษาด้วยเคมีบำบัดมีความจำเป็นต่อผู้ป่วยมะเร็งเป็นอย่างมาก แต่จะส่งผลกระทบทำให้ผู้ป่วยผมหลุดร่วง ผู้ป่วยจึงต้องการหมวกหรือวิกผม เพื่อสวมใส่ปกคลุมศีรษะให้เกิดความมั่นใจในการปรากฏตัวสู่สังคม แต่ด้วยขั้นตอนการผลิตวิกผมต้องใช้เวลานาน มีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ปริมาณวิกผมไม่

”ที่ผ่านมา‘วาโก้’ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านกิจกรรมเพื่อจิตอาสาทำความดีทั้งในและนอกองค์กรอย่างชัดเจน ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เราต้องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในการออกสู่สังคมอีกครั้ง พร้อมทั้งอยากที่จะส่งมอบพลังใจและความห่วงใยให้กับผู้ป่วยให้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้าย และมีสุขภาพแข็งแรงโดยฉับพลัน อีกทั้งยังคงเน้นจุดยืนในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับสังคม โดยบริษัทฯ ได้ทำการบริจาควัตถุดิบให้แก่สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมว่าจ้างให้สตรีบ้านพักฉุกเฉิน ศูนย์ฝึกอาชีพของสมาคม ทำการผลิตหมวกเหล่านี้ขึ้น และท้ายสุดเราก็ไม่ลืมที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและพนักงานทุกระดับกว่า 3,000 ชีวิต มาร่วมตกแต่งหมวกจำนวน 3,500 ใบ ให้มีความสวยงามก่อนส่งมอบให้แก้ผู้ป่วย กิจกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างความสามัคคี และลดช่องว่างในการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาให้องค์กรสามารถเติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

สำหรับหมวกทั้งหมดทาง ‘วาโก้’ จะนำไปมอบแด่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค กรมการแพทย์ ซึ่งทั้งหมดเป็นโรงพยาบาลของภาครัฐที่ดูแลการรักษาเกี่ยวกับโรคมะเร็งโดยเฉพาะ รวมทั้งสิ้น 8 แห่งด้วยกัน

“สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมอยู่ในตอนนี้ ‘วาโก้’ อยากที่จะส่งต่อกำลังใจแก่ผู้ป่วยทุกท่าน เพราะเราเข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ป่วยทุกรายต้องการกำลังใจทั้งในช่วงการรักษา หรือแม้กระทั่งช่วงพักฟื้น ส่วนท่านใดที่เพิ่งตรวจพบก็อย่าท้อแท้ เพราะโรคนี้หากตรวจพบเร็ว และได้รับรักษาอย่างถูกวิธีก็สามารถรักษาให้หายได้ ที่สำคัญอยากให้ผู้หญิงไทยทุกคนหันมาตระหนักถึงภัยของโรคร้ายนี้ และรู้จักการดูแลสุขภาพเต้านมอย่างถูกวิธี พร้อมหมั่นตรวจสุขภาพประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้หญิงไทยห่างไกลและปลอดภัยจากโรคมะเร็งเต้านม” นางสาวการุณี กล่าวทิ้งท้าย

Preview
ไทยวาโก้ ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการปี 2561 ในระดับ “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 4

บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 จากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2561 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ Top Quartile ของบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดระหว่าง 3,000 - 9,999 ล้านบาท ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผลการประเมินดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินกิจการภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาโดยตลอด